IPL (Intense Pulsed Light) เป็นเทคโนโลยีที่นำพลังงานแสงความเข้มข้นสูงที่มีความยาวหลายช่วงคลื่น อยู่ระหว่าง 500 to 1200 nm. โดยพลังงานจะไปจับกับเซลล์เม็ดสีและทำลายโครงสร้างของเม็ดสี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวชั้นบนๆ
รักษาฝ้า กระ และรอยแดงที่เกิดจากการถูกแสงแดดทำลาย รวมถึงอายุที่มากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ประโยชน์หลักๆ ของ IPL จึงเป็นเรื่องการช่วยทำให้หน้าใส ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ผิวดูกระจ่างใสมีออร่า แล้วก็ยังช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้กระฝ้าที่อยู่บนๆ หายไปได้ หน้าดูสดใสขึ้น ควรทำทุกๆ 2-3 สัปดาห์หรือทุกเดือน ในการรักษาฝ้าหรือกระบนๆ อาจจะต้องทำต่อเนื่องประมาณ 5 ครั้ง
ทั้งนี้ คลื่นแสง IPL จะกระจายตัวมากกว่าแสงเลเซอร์ และซึมเข้าไปยังชั้นผิวหนังแท้โดยไม่ทำลายหนังกำพร้าหรือผิวชั้นนอก ส่งผลให้ผิวหนังถูกทำลายน้อยกว่าการทำเลเซอร์ที่ยิงแสงออกมาเพียงช่วงความถี่เดียว
IPL รักษาปัญหาผิวพรรณชนิดใดได้บ้าง
● ช่วยลดรอยสิว รอยดำ จุดด่างดำ ฝ้า และกระบางชนิด
● ช่วยลดรอยแดงต่าง ๆ เช่น รอยแดงจากสิว และรอยแดงจากแผลเป็นนูน
● ลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ
● กระชับรูขุมขน
● กำจัดขน
● รักษาสิว โดยทำร่วมกับการทาสารบางชนิดในการฆ่าเชื้อสิว
● ปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ
● ลดความหมองคล้ำ ผิวกระจ่างใสขึ้น
ดูแลตัวเองหลังทำ IPL อย่างไร
หลังเข้ารับการทำ IPL ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
■ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนทำความสะอาดผิวบริเวณที่ระคายเคืองเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
■ หลีกเลี่ยงการโดนแดดเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
■ ทา Moisturizer เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เนื่องจากหลังทำ IPL อาจมีปัญหาผิวแห้ง ระคายเคืองได้
■ เลี่ยงการประคบร้อนหรือการอาบน้ำอุ่นจนกว่าบริเวณดังกล่าวจะฟื้นตัวสู่สภาวะปกติ
ผลข้างเคียงจากการทำ IPL
ส่วนใหญ่แล้ว การทำ IPL จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงเป็นรอยแดงและบวมที่ผิวหนังเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-2 วัน ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
■ ผิวหนังบริเวณที่ถูกแสง IPL มีสีแดงเรื่อ
■ ผิวไหม้เล็กน้อย โดยปรากฏเป็นรอยแดง ผิวลอก และบวม ประมาณ 2-3 วันหลังรับการรักษา
■ มีตุ่มน้ำใส ๆ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อยนัก
■ บริเวณที่รักษาเกิดรอยปื้นสีคล้ำหรือซีดกว่าสีผิวปกติ
■ ขนหลุดร่วง
■ ผิวแห้ง ระคายเคือง
ข้อดีและข้อเสียของการทำ IPL
ผู้ที่ต้องการรักษาปัญหาผิวพรรณหรือกำจัดขนด้วยการทำ IPL ควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของวิธีนี้เปรียบเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่น ดังนี้
ข้อดี
■ เป็นวิธีรักษาปัญหาผิวพรรณและกำจัดขนที่ใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย
■ การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาน้อยกว่าวิธีอื่น
■ ช่วยขจัดริ้วรอย จุดด่างดำ และกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
■ แสง IPL ไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก ส่งผลให้เสี่ยงได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีกรอหน้าหรือการทำเลเซอร์
■ ผิวหนังฟื้นตัวได้เร็ว
ข้อเสีย
■ การทำ IPL อาจใช้ไม่ได้ผลดีกับบริเวณผิวหนังที่ไม่สม่ำเสมอ ผู้ที่มีผิวคล้ำหรือขนสีอ่อน รวมถึงผู้ที่มีแผลเป็น Keloid หรือมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูน
■ ต้องรักษาซ้ำหลายครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
สิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่ควรทำติดต่อกันบ่อยครั้งเกินไป เพราะจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น และมีผลทำให้เกิดฝ้า กระ มากขึ้นในระยะยาว รักษาได้ยากขึ้น นอกจากนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวคล้ำ เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่ผิวจะไหม้ได้สูง อย่างไรก็ตาม หากต้องการรักษาปัญหาผิวด้วย IPL แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชา